‘ไนกี้’ ไม่เล่นด้วย! ฟ้อง ‘รองเท้าซาตาน’

‘ไนกี้’ ไม่เล่นด้วย! ฟ้อง ‘รองเท้าซาตาน’

ไนกี้ ประกาศเตรียมเดินหน้าฟ้อง ‘รองเท้าซาตาน’ หรือ ‘Satan Shoes’ รองเท้าผสมเลือดของแร็ปเปอร์ผิวสี ที่สวมใส่ใน MV เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานบริษัท ไนกี้ บริษัทผู้ผลิตรองเท้าชื่อดังได้ออกมาฟ้อง “รองเท้าซาตาน” (Satan Shoes) ในข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า หลังจากที่บริษัทสตาร์ทอัป MSCHF ได้นำรองเท้าของบริษัทไปดัดแปลงเป็นรองเท้าซาตาน

ในคำแถลงการชี้ว่า บริษัท MSCHF และรองเท้าซาตานที่ถูกดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต 

จะสร้างความสับสนให้กับลูกค้า และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ไนกี้ เกี่ยวข้องกับรองเท้าคู่นี้ โดยทางไนกี้ยังได้ระบุอีกว่าจากกระแสบอยคอตต์ที่เกิดขึ้นเป็นหลักฐานที่ดีว่ามีลูกค้าสับสนถึงความเกี่ยวข้องของสองบริษัทจริง

รองเท้าคู่ดังกล่าวเป็นรองเท้าที่แร็ปเปอร์ผิวดำ Lil Nas X สวมใส่ในเพลง Montero (Call Me By Your Name) และได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยบริเวณข้างรองเท้ามีการอ้างบทจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลอีกด้วย

ซึ่งจากคำอธิบายสินค้าระบุว่ารองเท้าคู่นี้มีจำหน่าย 666 คู่ ซึ่งบริเวณ บับเบิ้ลอากาศของรองเท้านั้นมีการบรรจุหมึกสีแดงเข้าไปด้วย ซึ่งในหมึกสีแดงนั้นมีการผสมหยดเลือดหนึ่งหยด

เมื่อรองเท้าคู่ดังกล่าวเปิดจำหน่ายด้วยราคาราวๆ 30,000 บาท และขายหมดภายในหนึ่งนาที หลังจากที่เปิดจำหน่าย

กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวอีกครั้ง เมื่อประเทศ เยอรมนี สั่งระงับใช้ แอสตราเซเนกา กับ ปชช.ที่มีอายุมากกว่า 60 หลังพบอาการลิ่มเลือดอุดตันชนิดหายาก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการประเทศเยอรมนีได้สั่งระงับไม่ให้มีการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนต้านโควิด-19 กับประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หลังจากที่มีการพบผู้ได้รับวัคซีนเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน ในประชาชนที่ได้รับวัคซีนแล้ว 31 คน

อย่างไรก็ตามประชาชนที่มีอายุ 60 ปี และมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อโรคโควิด-19 จะยังสามารถรับวัคซีนชนิดดังกล่าวได้ตามเดิม

ด้านผู้ผลิตวัคซีน แอสตราเซเนกา ได้ออกมาแถลงว่า พวกเขาจะร่วมมือกับทางการประเทศเยอรมนีเพื่อตอบคำถามที่ทางการประเทศเยอรมนีสงสัยต่อไป โดยขณะนี้ทางบริษัทยังคงตรวจสอบว่าอาการลิ่มเลือดอุดตันนี้ เกี่ยวข้องกับฉีดวัคซีนจริงหรือไม่

ขณะเดียวกันทางการแคนาดาก็ได้ออกมาประกาศใช้มาตรการเดียวกัน ด้วยการสั่งระงับการฉีดวัคซีนชนิดดังกล่าวกับประชาชนที่มีอายุมากกว่า 55 ปี

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอสตราเซเนกาต้องเผชิญการตั้งคำถามและการระงับการฉีดวัคซีนจากสมาชิกในกลุ่มประเทศ EU เพราะก่อนหน้านี้ หลายประเทศสั่งระงับการฉีดวัคซีน เนื่องจากผู้รับวัคซีนเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน หรืออาการ เลือดออกในสมอง อย่างในกรณีของประเทศนอร์เวย์

ทั้งนี้ WHO หรือองค์การอนามัยโลก ได้ออกมาแนะนำให้ทั่วโลกเดินหน้าฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาต่อไป พร้อมระบุว่าข้อเสียของวัคซีนถือว่ามีน้อยกว่าข้อดี พร้อมระบุว่าวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญในการหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เปิดคลองสุเอซ! หลัง จนท. กู้เรือ ‘เอฟเวอร์กีฟเวน’ สำเร็จ

เจ้าหน้าที่ทำการ เปิดคลองสุเอซ อีกครั้ง หลังจากที่สามารถกู้เรือ เอฟเวอร์กีฟเวน ให้กลับมาลอยน้ำได้อีกครั้ง หลังปิดเส้นทางนานสัปดาห์

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า คลองสุเอซ สามารถกลับมาเปิดเส้นทางการเดินเรือได้อีกครั้ง ท่ามกลางเสียงหวูดเฉลิมฉลองของเรือลาก หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือ เอฟเวอร์กีฟเวน (Evergiven) เรือขนาดใหญ่ที่เกยตื้นและปิดกั้นเส้นทางการค้าขายของคลองสุเอซนานนับสัปดาห์

โดยนาย ปีเตอร์ เบอร์โดสกี ประธานกรรมการบริหารของบริษัทกู้เรือในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือจากบริษัท เอฟเวอร์กรีน (Evergreen) ได้ในช่วงเลาประมาณ 13.05 น. ตามเวลาประเทศอียิปต์ และทำให้เรือสามารถสัญจรผ่านคลองสุเอซได้อีกครั้ง

ซึ่งในขณะนี้มีรายงานว่า ยังมีเรือหลายร้อยลำที่รอเดินทางผ่านคลองสุเอซ ซึ่งเชื่อมกับทะเลแดงและเมดิเตอร์เรเนียน

แม้ว่าการสัญจรจะกลับมาปกติแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้นน่าจะใช้เวลานานหลายสัปดาห์ หรือ อาจจะนานหลายเดือนถึงจะฟื้นฟูได้

ขณะนี้เรือเอฟเวอร์กีฟเวนกำลังมุ่งหน้าไปยังทางตอนเหนือ หรือ เกรท บิทเทอร์ เลค ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่าการเกยตื้นในครั้งนี้เกิดจากความขัดข้องของเครื่องยนต์หรือไม่ ด้านลูกเรือ 25 คนปลอดภัยทั้งหมด

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า